มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยจะมีการโรเตชันบางตำแหน่งจากเกมที่ชนะ ฟิจิ มา
ปฏิวัติ คำไหม เฝ้าเสา แนวรับคาดว่า สุพรรณ ทองสงค์ กับ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ จะจับคู่กัน กองกลาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จะยืนคู่กันโดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวรุกหลังกองหน้า ส่วนตัวริมเส้นเป็น เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ สุภโชค สารชาติ กองหน้าตัวเป้าใช้ ศุภชัย ใจเด็ด
เกรแฮม อาร์โนลด์ เอาชนะฮ่องกงมา 2-1 สภาพความพร้อมไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บ แกนหลักยังคงพร้อมกันลงสนามครบถ้วน
อาเหม็ด บาซิล เฝ้าเสาตามเดิม แนวรับ ซาอิด ทาห์ซีน จะเป็นแกนหลักโดยมี เรบิน ซูลากา กองหลัง การท่าเรือ ที่น่าจะได้รับโอกาสลงสนามเกมนี้ เช่นเดียวกับ ฟรานส์ ปูโตรส อดีตแข้งสิงห์เจ้าท่า ที่น่าจะรับบทแบ็กขวาจำเป็นต่อไป กองกลาง โอซามา ราชิด มิดฟิลด์ตัวเก๋าวัย 33 ยังปักแผงกลาง โดยมีดาวรุ่งที่เล่นในยุโรปอย่าง มอนทาเดอร์ มาดเญด และ มาร์โก ฟาร์จี เป็นตัวริมเส้น ส่วนกองหน้าตัวเป้ายังใช้ดาวยิงตัวเก่งอย่าง อายเมน ฮุสเซ็น เป็นหอคอยล่าตาข่าย
(4-2-3-1) ปฏิวัติ คำไหม – ศุภนันท์ บุรีรัตน์, สุพรรณ ทองสงค์, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ, นิโคลัส มิคเกลสัน – พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล – เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ – ศุภชัย ใจเด็ด
(4-1-2-3) อาเหม็ด บาซิล – ฟรานส์ ปูโตรส, ซาอิด ทาห์ซีน, เรบิน ซูลากา, อาเหม็ด ยายา – โอซามา ราชิด – อัมญาด อาตวาน, อิบราฮิม บาเยช – มอนทาเดอร์ มาดเญด, อายเมน ฮุสเซ็น, มาร์โก ฟาร์จี
: กลีบบัว (กาญจนบุรี)
แม้ทีมชาติไทยจะยังมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์อยู่บ้าง แต่ด้วยศักยภาพและแรงเชียร์ในบ้าน พวกเขาสามารถรับมือกับอิรักได้อย่างสูสีแน่นอน และมีโอกาสที่จะพลิกเกมเอาชนะเพื่อคว้าชัยในที่สุด
