ไม่ใช่กล! ไม่ตบตา! “15 เรื่องจริง” รู้ก่อนดู “Now You See Me: Now You Don’t อาชญากลปล้นโลก 3” 13 พฤศจิกายนนี้

เปิดตัวภาพยนตร์ใหม่สุดเร้าใจ! “อาชญากลปล้นโลก 3” กับภารกิจลับระดับโลกที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในวงการภาพยนตร์แนว “movie news” ไม่มีใครไม่รู้จักกับสุดยอดกลุ่มนักมายากลที่เรียกขานกันว่า “จตุรอาชา” หรือ “เดอะ ฮอร์สเมน” ซึ่งเป็นกลุ่มนักมายากลระดับตำนานที่เคยสร้างความประทับใจและความตื่นเต้นให้กับผู้ชมทั่วโลกมาแล้วหลายภาค ด้วยความสามารถในการหลบหนี การปล้นที่แสนฉลาด และการสร้างภาพลวงตาที่สุดยอด วันนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งในภาคที่ 3 ของซีรีส์สุดฮิต “Now You See Me” กับชื่อเต็มว่า “อาชญากลปล้นโลก 3” (Now You See Me: Now You Don’t) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกลลวง มายากล และการโจรกรรมระดับโลกที่เข้มข้นและตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

เรื่องราวสุดเข้มข้น: ภารกิจปล้นครั้งใหญ่บนเวทีโลก

ในปี 2025 นี้ “จตุรอาชา” ได้รับคำสั่งจากสมาคมนักมายากลลับระดับโลก “The Eye” ซึ่งเป็นองค์กรที่อุทิศตนเพื่อปล้นคนรวยและช่วยเหลือคนจน พวกเขาถูกส่งภารกิจปล้นอัญมณีล้ำค่าจากเจ้าของวงการเพชรระดับโลกที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายการฟอกเงินระดับนานาชาติ ภารกิจนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งสเกลและความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยพวกเขาต้องเดินทางข้ามทวีป ตั้งแต่มหานครนิวยอร์ก, ฮังการี, เบลเยียม ไปจนถึงทะเลทรายอาบูดาบี เพื่อวางแผนและปฏิบัติการปล้นอย่างแยบยลที่สุด

นอกจากการหลบหนีจากตำรวจและอาชญากรระดับโลกแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญกับกลุ่มอาชญากรที่มีอิทธิพลและความรุนแรงมากขึ้น เช่น “ควีนโคตรเพชร” เวโรนิกา แวนเดอร์เบิร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของอัญมณีอันล้ำค่าที่สุดในโลก การปะทะกันระหว่างกลุ่มนักมายากลและเหล่าอาชญากรระดับสูงนี้ ย่อมสร้างความระทึกใจและความตื่นเต้นให้กับผู้ชมอย่างไม่รู้จบ

ความล้ำหน้าของเทคนิคภาพยนตร์และการสร้างสรรค์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

1. การรวมทีมใหม่ของ “เดอะ ฮอร์สเมน”

ในภาคนี้ สมาชิกดั้งเดิมทั้ง 4 ของ “จตุรอาชา” กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ได้แก่ “แอตลาส” นักมายากลอัจฉริยะที่เป็นสมองของทีม, “แจ็ก” นักมายากลมือไวที่เชี่ยวชาญการใช้ไพ่, “เมอร์ริตต์” ผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดจิตและการอ่านใจ และ “เฮนลีย์” นักมายากลหญิงที่ปลดและหลบหนีจากพันธนาการได้ทุกสถานการณ์

เพื่อเสริมทัพความสามารถ พวกเขายังได้รวมกลุ่มนักมายากลยุคใหม่ที่มีฝีมือไม่ธรรมดา อย่าง “บอสโก”, “จูน” และ “ชาร์ลี” นักมายากลรุ่นใหม่ที่เตรียมสร้างความประทับใจและหักมุมในทุกฉากการแสดง

2. การบู๊และการปล้นสุดอลังการ

“อาชญากล” ในภาคนี้จะต้องปะทะกับ “อาชญากร” ระดับบิ๊ก โดยเนื้อเรื่องเน้นการปล้นคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจน ซึ่งเป็นจุดเด่นของกลุ่มจตุรอาชาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ความท้าทายเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาต้องวางแผนปล้นอัญมณี “ควีนโคตรเพชร” มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจเปลี่ยนโลกของวงการเพชรและการฟอกเงินระดับโลกให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

3. การใช้เทคโนโลยีและฉากพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน

ผู้กำกับ “รูเบน เฟลเชอร์” (Venom) ต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชมได้สัมผัสกับเวทมนตร์จริงๆ มากกว่าการใช้วิชวลเอฟเฟกต์ ซึ่งผลลัพธ์คือการฝึกซ้อมและการเล่นมายากลแบบสดๆ ของนักแสดงทุกคน ทำให้ภาพลวงตาและกลกลยุทธ์ต่างๆ เป็นการแสดงจริงที่น่าทึ่งที่สุดในวงการหนัง

4. ฉากแสดงกลสุดตระการตาและเทคนิคลองเทก

หนึ่งในฉากที่โดดเด่นที่สุดคือ การแสดงกลในฉากลองเทก ซึ่ง 7 นักแสดงของ “เดอะ ฮอร์สเมน” ต้องโชว์กลยุทธ์และทักษะมายากลของแต่ละคนแบบต่อเนื่องกันแบบไม่มีสะดุด โดยนักแสดงต้องซ้อมอย่างหนักและถ่ายทำในรูปแบบลองเทก ซึ่งหากผิดพลาดแม้เพียงวินาทีเดียว ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

5. การสร้างภาพลวงตาด้วย “Ames Room” ครั้งแรกในโลกภาพยนตร์

สำหรับการสร้างภาพลวงตาที่น่าทึ่งที่สุดในเรื่องนี้ คือการใช้งาน “Ames Room” ซึ่งเป็นห้องที่ออกแบบให้บิดเบี้ยวเพื่อสร้างภาพลวงตาเกี่ยวกับขนาดและรูปร่างของบุคคลและวัตถุในฉากเดียวกัน ทำให้ตัวละครที่ยืนอยู่มุมหนึ่งดูตัวเล็กจิ๋ว และอีกมุมหนึ่งดูสูงใหญ่ราวกับยักษ์ การใช้เทคนิคนี้ในฉากแอ็กชันและการต่อสู้ ทำให้เกิดภาพลวงตาที่สวยงามและสมจริงที่สุดในวงการภาพยนตร์

สถานที่ถ่ายทำสุดอลังการและเทคนิคการสร้างฉากที่น่าทึ่ง

6. คฤหาสน์เก่าแก่และฉากใน “เนตรภาคี”

สถานที่ถ่ายทำสำคัญคือ คฤหาสน์โบราณอายุ 150 ปีที่ใกล้บูดาเปสต์ ซึ่งใช้เป็นฉากของศูนย์บัญชาการลับของสมาคม “เนตรภาคี” หรือ “ดิ อาย” ในภาพยนตร์ ภาพบรรยากาศของปราสาทเก่าแก่และบรรยากาศลึกลับ ช่วยเพิ่มความน่าตื่นเต้นและเป็นมิติใหม่ให้กับเนื้อเรื่อง

7. ฝึกกล 3 เดือนของทีม “น้องใหม่”

สามนักแสดงหน้าใหม่อย่าง “โดมินิก เซสซา”, “จัสติซ สมิท” และ “อารีอานา กรีนแบลตต์” ต้องเรียนรู้ทักษะมายากลอย่างจริงจังเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสุดหิน พวกเขาได้ฝึกฝนกับนักมายากลระดับโลกที่ “Magic Castle” ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นแหล่งฝึกฝนและเรียนรู้มายากลชั้นนำของโลก

8. ฉากสะท้อนวัตถุสุดอลังการ “บันไดกระจกอินฟินิตี้”

อีกฉากเด็ดคือ “ห้องบันไดกระจกอินฟินิตี้” ซึ่งสะท้อนวัตถุถึง 78 ชิ้นในเฟรมเดียว สร้างความรู้สึกว่าทุกสิ่งในภาพเป็นสิ่งที่ไม่สิ้นสุดและเหนือจินตนาการ รับรองว่าผู้ชมจะต้องตื่นตาตื่นใจและรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่โลกแห่งเวทมนตร์แบบจริงจัง

9. ห้องกลกลับหัวและฉากหนีตำรวจสุดระทึก

ฉากหนีตำรวจในห้องหมุนติ้วที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ตัวละครต้องเคลื่อนที่ในพื้นที่ที่บิดเบี้ยวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นักแสดงอย่าง “เจสซี ไอเซนเบิร์ก” ก็ถึงกับยอมรับว่านี่เป็นฉากที่ท้าทายและเหนื่อยที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา เพราะต้องทำในห้องที่หมุนได้จริง ๆ โดยไม่สามารถซ้อมล่วงหน้าได้เลย

สุดยอดฉากแอ็กชันและเทคนิคพิเศษใน “W Abu Dhabi”

10. จุดไคลแมกซ์สุดอลังการในงานเปิดตัวรถแข่ง F1

ภารกิจสำคัญของกลุ่มคือ การโค่นอำนาจของ “อาณาจักรแวนเดอร์เบิร์ก” ด้วยฉากสุดหรูใน “W Abu Dhabi” ซึ่งเป็นโรงแรมห้าดาวระดับโลกที่ตั้งอยู่บนและในน้ำ พร้อมสนามแข่งกรังด์ปรีซ์ที่วิ่งผ่านตัวโรงแรม โดยมีการใช้รถหรูระดับโลกเช่น Lamborghini Huracán, Ferrari F8 Tributo และ Ferrari Roma เพื่อเพิ่มความสมจริงและความหรูหราให้กับฉากนี้

11. ถ่ายทำในลูฟวร์ อาบูดาบี

ฉากโชว์กลสุดอลังการที่ถ่ายทำใน “ลูฟวร์ อาบูดาบี” พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมสมัยใหม่แห่งแรกในโลกอาหรับ ซึ่งลอยอยู่บนผิวน้ำใต้โดมโลหะอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างความประทับใจและความเก่งกาจด้านเทคนิคของทีมสร้างภาพยนตร์

12. การถ่ายทำใน “เมืองหลวงแห่งเพชรของโลก” – แอนต์เวิร์ป

หนึ่งในจุดถ่ายทำสำคัญคือเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรระดับโลก โดยทีมงานได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำภายในโรงงานเพชร “HB Antwerp” ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าสำคัญที่สุดของโลก ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความลับสูงสุด ทำให้ภาพยนตร์สามารถนำเสนอฉากปล้นเพชรสุดระทึกในสถานที่จริงได้อย่างสมจริง

13. เทคโนโลยีเปลี่ยนชุดเร็วที่สุดในโลก

หนึ่งในเทคนิคที่น่าทึ่งที่สุดคือการเปลี่ยนชุดของนักแสดงในพริบตา โดยไม่ใช้ซีนีจีใด ๆ แต่เป็นฝีมือของทีมเครื่องแต่งกายและนักออกแบบมายากลที่ไปศึกษาจากฝรั่งเศส ซึ่งสร้างชุดที่สามารถเปลี่ยนโฉมได้ในวินาที ทำให้ฉากเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วกลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของหนัง

ความสนุกและความตื่นเต้นที่ไม่ต้องพึ่งพา “ภาคแรก” ก็เข้าใจได้

“อารีอานา” นักแสดงนำในเรื่องเผยว่า “มันเป็นหนังที่สมบูรณ์ในตัวเอง แต่ก็ยังคงความเวทมนตร์ไว้ให้ผู้ชมได้สัมผัส ถ้าคุณยังไม่เคยดู ‘Now You See Me’ และ ‘Now You See Me 2’ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะภาคนี้สามารถสนุกได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าเคยดูมาก่อนแล้ว ก็จะยิ่งสนุกและเข้าใจเบื้องหลังมากขึ้น” ซึ่งเป็นคำยืนยันว่า ภาค 3 นี้ถูกสร้างมาเพื่อให้ทุกคนได้รับความบันเทิงอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เข้าใจ

การเดินทางสุดอัศจรรย์จากยุโรปสู่ตะวันออกกลาง

หนึ่งในเสน่ห์ของ “Now You See Me: Now You Don’t” คือการถ่ายทำในหลายประเทศและหลายทวีป เช่น บูดาเปสต์, แอนต์เวิร์ป, นิวยอร์ก, แอฟริกาใต้ และอาบูดาบี ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความยิ่งใหญ่และความใส่ใจในรายละเอียดของทีมสร้างภาพยนตร์ สร้างภาพลักษณ์ของการผจญภัยแบบไร้ขีดจำกัดและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ

สรุป: คืนความสนุกแบบเต็มอิ่ม พร้อมภารกิจปล้นระดับโลก

ในที่สุด “จตุรอาชา” กลับมาแล้วในภาคที่ 3 ของซีรีส์ “Now You See Me” ซึ่งครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ แต่เป็นการรวมพลังของทีมใหม่และเก่า ที่พร้อมจะปลุกความตื่นเต้นและสร้างความประทับใจให้กับแฟนหนังทั่วโลก ด้วยกลลวงสุดล้ำ เทคนิคภาพยนตร์สุดสมจริง และสถานที่ถ่ายทำสุดอลังการ ภารกิจครั้งใหญ่นี้จะเป็นการพิสูจน์ความสามารถของนักมายากลและความกล้าหาญของพวกเขาในการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปสนุกกับ “Now You See Me: Now You Don’t” 13 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ!