“The Ugly หน้าเกลียด” พลิกเกม! เผยทุนสร้างเพียง 2 พันล้านวอน–ถ่าย 13 คิว ขึ้นแท่นหนังคุ้มทุนเร็วที่สุดแห่งปี

ข่าวภาพยนตร์สุดฮิต: เปิดตัว “The Ugly หน้าเกลียด” ผลงานใหม่จากผู้กำกับระดับตำนาน ยอนซังโฮ

ในวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้และวงการภาพยนตร์ระดับโลก กลับมาสร้างความตื่นเต้นอีกครั้งกับการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่จากผู้กำกับชื่อดัง ยอนซังโฮ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้างผลงานระดับปรากฏการณ์อย่าง Train to Busan และ Peninsula ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ภาพยนตร์ “The Ugly หน้าเกลียด” กับความกล้าหาญและความท้าทายใหม่ในวงการหนัง

ภาพยนตร์เรื่อง “The Ugly หน้าเกลียด” เป็นผลงานที่สร้างความประทับใจและสะเทือนวงการภาพยนตร์เกาหลีอย่างมาก โดยแม้จะใช้งบประมาณเพียง 2 พันล้านวอน (ประมาณ 200 ล้านบาท) ซึ่งเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบและแรงสั่นสะเทือนในวงการอย่างไม่คาดคิด

นอกจากนี้ การถ่ายทำที่ใช้เวลาจำกัดเพียง 13 วัน ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าสิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่งบประมาณหรือระยะเวลาการผลิตเสมอไป แต่คือความตั้งใจและความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยม ซึ่งสื่อเกาหลีต่างก็ยกให้เป็นตัวอย่างของ “ความกล้าหาญของผู้สร้างสมัยใหม่” ที่กล้าทำในสิ่งที่ท้าทายและแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

แรงบันดาลใจและแนวคิดเบื้องหลังภาพยนตร์

โดยจุดเริ่มต้นของ “The Ugly หน้าเกลียด” มาจากกราฟิกโนเวลที่ ยอนซังโฮ เป็นผู้วาดและเขียนด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นผลงานที่เขาได้สร้างขึ้นหลังจากประสบกับการปฏิเสธจากนักลงทุนหลายครั้ง ทำให้เขาตัดสินใจที่จะสร้างมันด้วยตัวเองผ่านสตูดิโอ Wow Point ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า “ไอเดียที่ดี ไม่ควรถูกหยุดด้วยงบประมาณ”

ผลงานนี้จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ภาพยนตร์คุณภาพสูงสามารถเกิดขึ้นได้จากความตั้งใจและความจริงจังมากกว่าการลงทุนมหาศาล ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ทั่วเอเชียและทั่วโลกว่า ความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเยี่ยม

เนื้อหาของภาพยนตร์: สะท้อนประวัติศาสตร์และสังคมเกาหลีในยุค 1970

ภาพยนตร์เรื่องนี้พาผู้ชมย้อนยุคไปในทศวรรษ 1970 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว เรื่องราวเน้นไปที่ชีวิตของ อิมยองกยู ช่างจารึกตาบอดผู้สร้างชื่อเสียงและความหวังในสังคมที่ให้ความสำคัญกับ “ความสมบูรณ์แบบ” และ “ความสำเร็จ” รวมถึง จองยองฮี ภรรยาที่ต้องแบกรับรอยแผลจากยุคสมัยและความลืมเลือนอย่างไม่เป็นธรรม ก่อนที่ลูกชายจะออกตามหาและเปิดเผยความจริงในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกินกว่า 40 ปี

เนื้อเรื่องของ “The Ugly หน้าเกลียด” ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับความงาม, ความจริง, ความเชื่อ และการเลือกที่จะลืมเลือนใบหน้าที่สังคมไม่อยากจดจำ ซึ่งเป็นการสะท้อนความซับซ้อนของมนุษย์และสังคมเกาหลีในยุคนั้นได้อย่างลึกซึ้งและน่าติดตาม

ความสำเร็จและเสียงตอบรับจากผู้ชม

ตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดฉาย “The Ugly หน้าเกลียด” ก็สามารถทำรายได้ทะลุจุดคุ้มทุนอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงตอบรับเชิงบวกและแรงปากต่อปากอย่างล้นหลามจากผู้ชมที่สนใจและให้ความสนใจในเนื้อหาและแนวคิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของหนังและความสามารถในการสร้างผลงานที่เปี่ยมด้วยความจริงใจ

ยอนซังโฮ ได้ออกมาพูดถึงความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ว่า เป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ ซึ่งเขาเชื่อว่าผู้สร้างยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกรอบเดิมๆ อีกต่อไป แต่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระและเต็มเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์

กำหนดฉายและช่องทางติดตามข่าวสาร

ภาพยนตร์ “The Ugly หน้าเกลียด” มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับคนรักหนังไทยและผู้ชมชาวเอเชียที่อยากสัมผัสผลงานคุณภาพจากผู้กำกับระดับตำนานนี้

สำหรับความเคลื่อนไหวและข่าวสารเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ สามารถติดตามได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ดังนี้:

  • Facebook:
  • YouTube:
  • Instagram:
  • TikTok:
  • X (Twitter):

บทสรุป: ภาพยนตร์คุณภาพที่ไม่ควรพลาดในปี 2023

จากความสำเร็จของ “The Ugly หน้าเกลียด” ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนถึงความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับ ยอนซังโฮ ไม่เพียงแต่จะเป็นหนังที่น่าจับตามองในวงการหนังเอเชียเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การสร้างภาพยนตร์ที่ดีและมีคุณค่า สามารถเกิดขึ้นได้จากความตั้งใจและความกล้าหาญของผู้สร้าง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพางบประมาณสูงหรือเทคโนโลยีล้ำสมัยเท่านั้น

สำหรับแฟนหนังและผู้สนใจในข่าวหนังใหม่ๆ อย่าลืมติดตามอัปเดตข่าวสารและข้อมูลล่าสุดของภาพยนตร์ “The Ugly หน้าเกลียด” ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ

อย่าพลาดโอกาสที่จะได้ชมภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความจริงใจและแรงบันดาลใจจากผลงานของผู้กำกับระดับตำนาน ยอนซังโฮ ที่จะพาเราไปสำรวจและตั้งคำถามกับความงามและความจริงในสังคมเกาหลีในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่