Transformers The Last Knight ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 5 อัศวินรุ่นสุดท้าย
ชื่อภาพยนตร์: Transformers: The Last Knight / ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 5 อัศวินรุ่นสุดท้าย
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์: Michael Bay
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Art Marcum (screenplay), Matt Holloway (screenplay)
นักแสดงนำ: Mark Wahlberg, Anthony Hopkins, Josh Duhamel, Laura Haddock, Isabela Moner, Stanley Tucci, Liam Garrigan, Martin McCreadie
ความยาว: 149 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ท, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 22 มิถุนายน 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Di Bonaventura Pictures, Hasbro, Huahua Media
ถึงเวลาที่หลายคนรอคอยกับหนังภาคต่อของแฟรนไชส์ ‘Transformers’ ที่สร้างกระแสและรายได้ถล่มทลายมาทุกภาค ทำให้ผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ ไม่ยอมรามือยังคงเดินหน้าสร้างภาคที่ 5 ในชื่อว่า ‘Transformers: The Last Knight’ ที่เรื่องราวไปไกลถึงยุคคิงอาร์เธอร์ ทั้งยังจัดเต็มหุ่นหน้าใหม่ พร้อมทั้งเล่าไปถึงความลับที่โลกยังไม่เคยรู้มาก่อน แถมด้วยไอเดีย ‘ผู้ถูกเลือก’
เรื่องย่อ
ด้วยภารกิจปกป้องเหล่าพันธมิตรออโต้บอตส์ ทำให้ เคด เยเกอร์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ต้องหลบหนีจากการถูกตามล่าโดยกองกำลังทหารรับจ้าง TRF ที่ตามล่าและทำลายชาวดาวไซเบอร์ทรอน
และภารกิจของ เยเกอร์ ทำให้ได้พบกับสาวน้อยอิซซี่ (Isabela Moner) ที่มีคู่ซี้เป็นเจ้าหุ่นตัวเปี๊ยก แต่เหตุการณ์ไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อมีความลับที่รอการเปิดเผยต่อโลก และมนุษย์โลกนั้นเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเหล่าทรานส์ฟอร์มเมอร์ส โดยผู้กุมความลับของเรื่องราวทั้งหมดคือขุนนางอังกฤษนามว่า เซอร์เอ็ดมันด์ เบอร์ตัน (เซอร์แอนโธนี ฮ็อปส์กินส์) และ วิเวียน เวมบลีย์ (ลอร่า แฮดด็อก) ศาสตราจารย์จากอ็อกซ์ฟอร์ด
ไม่พอ เหล่าออโต้บอตส์ยังต้องเผชิญกับอีกหนึ่งปัญหา เมื่อ ออปติมัส ไพรม์ ดันแปรพักตร์และหันกลับมาทำร้ายพวกเดียวกันเสียเอง
แล้วบทสรุปของสงครามจักรกลนี้จะจบลงอย่างไร ต้องไปติดตามกัน กับ Transformers: The Last Night
หนังภาคนี้อาจไม่มีอะไรแปลกใหม่ออกไปมากนัก แต่เน้นสร้างเรื่องราวเพื่อขยายจักรวาลทรานส์ฟอร์มเมอร์สสู่เนื้อหาที่กว้างไกลได้อีก โดยเพิ่มตัวละครใหม่ ๆ สร้างตัวละครเทพ ๆ หรือเปลี่ยนตัวละครที่คุ้นเคยให้กลายเป็นศัตรูเพื่อกลับมาทำลายโลก ทำให้หนังมีรายละเอียดเยอะมาก แต่พล็อตหลัก ๆ ก็คือการตามหาบางสิ่งเพื่อจุดประสงค์ที่ต่างกันของตัวละครสองกลุ่ม
‘The Last Knight’ อาจด้อยด้านบทที่ดูเบาขาดน้ำหนักและความน่าเชื่อถือ ตัวละครก็ค่อนข้างเยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ถ้าอยากดูเรื่องนี้ให้สนุก ก็ควรวางตรรกะทิ้งไว้ ไม่ต้องจับผิดหรือสนใจเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะใช่ว่าหนังจะไม่มีอะไรโดดเด่นเสียเลยทีเดียว และต้องยอมรับว่า ไมเคิล เบย์ คือ ผกก. ที่มีฝีมือในการกำกับฉากแอ็คชั่นอย่างหาตัวจับยาก เขาเลือกใช้มุมกล้องให้เข้ากับความเป็นหนัง 3 มิติได้อย่างดี แถมช่วงท้ายยังจัดเต็มชนิดที่คอหนังแอ็คชั่นจะต้องมันส์สะใจ
